วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ระบบสแตนด์บายแบบไม่ใช้พลังงาน สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า

อย่า ลืมถอดปลั๊กไฟก่อนออกจากบ้านหรือเมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อย เป็นประโยคที่ค่อนข้างจะคุ้นหูโดยเฉพาะในยุคนี้ ที่ทุกคนต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน   
   
ถึงแม้ปัจจุบันอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เครื่องรับโทรทัศน์, เครื่องเสียง, เครื่องปรับอากาศ หรืออื่น ๆ จะพัฒนาโหมดสแตนด์บายขึ้นมา เพื่อประหยัดพลังงานและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งก็ทำให้คนส่วนใหญ่จึงมักปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยใช้รีโมตคอนโทรล
   
ทั้งนี้การปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยรีโมตนั้น อุปกรณ์ไฟฟ้าจะเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าดังกล่าว  ยังคงสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าจากการใช้โหมดสแตนด์บายอยู่  เพราะว่ายังคงต้องการพลังงานสำหรับเลี้ยงวงจรเซ็นเซอร์ เพื่อรอรับคำสั่งเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าจากรีโมตคอนโทรลอยู่ตลอดเวลา

...ความสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าในโหมดสแตนด์บายดังกล่าวกำลังจะหมดไป ...
   
เมื่อนักวิจัยไทยจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำทีมโดย “ดร.พรอนงค์  พงษ์ไพบูลย์” จากห้องปฏิบัติการวิจัยนวัตกรรมไร้สายและความมั่นคง (WIS)  หน่วยวิจัยเทคโนโลยีไร้สาย ข้อมูล ความมั่นคงและนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม (WISRU) ประสบความสำเร็จในการพัฒนา “ต้นแบบ ระบบสแตนด์บายแบบไม่ใช้พลังงานสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า” หรือ  Zero-watt Standby ขึ้น
   
ผู้วิจัยบอกว่า ระบบสแตนด์บายที่พัฒนาขึ้นนี้ จะไม่สิ้นเปลืองพลังงาน  เนื่องจากใช้พลังงานจากเครื่องควบคุมระยะไกลหรือรีโมตคอนโทรลมาทำการควบคุม วงจรสวิตช์ แทน เมื่อผู้ใช้สั่งเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า  พลังงานที่ถูกส่งมาจากรีโมตคอนโทรล จะทำการควบคุมวงจรสวิตช์ให้เชื่อมต่อแหล่งจ่ายไฟเลี้ยงเข้ากับภาครับสัญญาณ ควบคุมและภาคประมวลผลหรือไมโครคอนโทรเลอร์

โดยระบบอาจจะหน่วงเวลาไว้เพื่อรอให้ภาครับสัญญาณควบคุมและภาคประมวลผลเริ่ม ทำงานก่อน ที่ระบบจะส่งสัญญาณควบคุมออกไป ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งจะเข้าสู่โหมดการทำงานได้ตามปกติ 
    
และเมื่อผู้ใช้สั่งให้ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า ภาคควบคุมจะตัดพลังงานที่จ่ายให้กับภาครับสัญญาณควบคุมและภาคประมวลคำสั่ง ควบคุม และเข้าสู่โหมดสแตนด์บายโดยไม่ใช้พลังงาน
   
การหยุดการสูญเสียพลังงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้เมื่อผู้ใช้งานสั่งปิดอุปกรณ์ ไฟฟ้าด้วยรีโมตคอนโทรล ถือเป็นจุดเด่นของระบบนี้  โดยเปรียบเสมือนการถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องไปกดปุ่มเปิด-ปิดที่ตัวอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าให้เริ่มทำงาน   ขณะเดียวกันตัวระบบจะใช้เทคโนโลยีการรับ-ส่งพลังงานแบบไร้สาย ควบคู่ไปกับการส่งสัญญาณควบคุมของรีโมตคอนโทรล ในการควบคุมการเปิดปิดของเครื่องใช้ไฟฟ้า  
  สามารถพัฒนาระบบดังกล่าวให้ฝังหรือควบรวมเข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ ซึ่งจะมีต้นทุนที่ไม่มากนัก  เนื่องจากสามารถออกแบบวงจรให้รวมอยู่ในอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติมไม่มาก
   
หรือหากจะพัฒนาเป็นชุดอุปกรณ์แบบกล่องเหมือนต้นแบบก็มีต้นทุนการผลิตเพียง แค่หลักพันต้น ๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือน โดยใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ
ที่ใช้รีโมต เช่น โทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องเสียง หรือเครื่องปรับอากาศ เพียงเชื่อมต่อระบบสแตนด์บายแบบไม่ใช้พลังงานเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้า และใช้รีโมตคอนโทรลส่งพลังงานในการควบคุมการเปิด-ปิด ซึ่งระบบสแตนด์บายแบบไม่ใช้พลังงานนี้สามารถทนกำลังไฟฟ้าได้สูงถึง 1.5 กิโลวัตต์ และรีโมตคอนโทรลสามารถควบคุมการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ในระยะ 5 เมตร รองรับอุปกรณ์ได้ 3 ชิ้นต่อ 1 ชุด
   
ปัจจุบันการพัฒนาระบบดังกล่าวได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรแล้วและอยู่ในขั้นการ พัฒนาต้นแบบระดับภาคสนาม พร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับนักลงทุนสนใจ
   
โอกาสและความเป็นไปได้ในการทำตลาดเชิงพาณิชย์ถือว่ามีสูง โดยถูกจัดเป็น  1 ใน 5 ผลงานเด่นของ สวทช. ที่นำเสนอต่อนักลงทุนในงาน นาสด้า อินเวสเตอร์ เดย์ 2011

ที่มา
www.dailynews.co.th (วันที่สืบค้นข้อมูล 25 มิถุนายน 2555)




น.ส. สุภัทรา พึ่งพเดช (แหม่ม)

2 ความคิดเห็น:

  1. Environment Object คืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าแม้ไม่ได้ถอดปลั๊กออก โดยมีการพัฒนาเป็นระบบสแตนด์บายแบบไม่ใช้พลังงานสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ก็ดีครับเพราะคนไทยไม่ชอบถอดปลั๊กหลังเลิกใช้มันทำให้เปลืองพลังงานถึง5%เลยนะครับ

      ลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น