หลาย
คนในแวดวงพลังงานคงพอจะคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว
กับการนำเอาพลังงานจากคลื่นในมหาสมุทรมาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้า
ด้วยแนวคิดอันชาญฉลาดจากทางยุโรปที่มีการพัฒนากันมาเรื่อย
ล้มเลิกโครงการไปก็หลาย จนกระทั่งมาสำเร็จในปี ค.ศ.2000 เมื่อบริษัท เวฟเจน
(Wavegen) ผู้ประกอบการด้านพลังงานทดแทน ร่วมกับมหาวิทยาลัยควีนส์
ยูนิเวอร์ซิตี้เบลฟาสต์ ในประเทศ
ไอร์แลนด์เหนือ
ได้ร่วมกันทำการวิจัย ศึกษา
และรวบรวมข้อมูลการพัฒนาพลังงานจากคลื่นเป็นเวลากว่า 30 ปี
จนสามารถติดตั้งสถานีผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่นที่ชายฝั่งอิสเลย์ประเทศสก๊อต
แลนด์ ได้เป็นผลสำเร็จ และเชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้
เข้าสู่ระบบสายส่งไฟฟ้าของสหราชอาณาจักรเป็นที่เรียบร้อย
นับเป็นสถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานคลื่นเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลก
โดยมีสหภาพยุโรปเป็นผู้ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว
ต่อ
มาก็เกิดโครงการ CETO โดยออสเตรเลีย
ที่ประสบความสำเร็จในการดึงพลังงานจากคลื่นมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าในเชิง
พาณิชย์ ที่ชายฝั่งของเมืองฟรีแมนเทิล ซึ่งนอกจากกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้แล้ว
ยังมีผลพลอยได้ในรูปของน้ำจืดจากโครงการดังกล่าวอีกด้วย
โครงการ
CETO นี้มีความโดดเด่นจากโครงการอื่น ๆ
ตรงที่ไมได้ติดตั้งอยู่บนผิวน้ำหรือบริเวณชายฝั่ง
แต่จะมีกักเก็บพลังงานโดยใช้ทุ่นที่ยึดติดกันเป็นแพ บนพื้นทรายของทะเลขนาด
250 ตารางเมตร ที่ระดับความลึก 15-50 เมตร
เมื่อทุ่นถูกคลื่นซัดจะเกิดผลักแรงดันคล้ายเครื่องสูบน้ำและส่งน้ำทะเลไปตาม
ท่อเพื่อหมุนกังหันปั่นไฟ
นอกจากนั้นน้ำทะเลที่มาพร้อมกับแรงดันนั้นจะถูกนำมากลั่นให้กลายเป็นน้ำจืด
(destination) ซึ่งต้องการแรงดังสูงเพื่อผลักให้น้ำผ่านเยื่อเมมเบรน
(membranes) ที่ใช้ในการแยกเกลือออกจากน้ำในแบบ reverse-osmosis
จากการทดลองเดินระบบในระยะแรกพบว่า CETO มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุด 92
กิโลวัตต์ ผลิตน้ำจืดได้เพียงพอ สำหรับประชากรประมาณ 3 พันคน
หรือเทียบเท่ากับร้อยละ 10 ของความต้องการใช้น้ำจืดของคนในพื้นที่ดังกล่าว
แม้
CETO จะใช้เพียงพลังงานคลื่น ที่ไม่เกะกะเทอะทะรำคาญตาเหมือนแผ่นโซลาร์
และไม่รำคาญหูเหมือนกังหันลม แต่ขณะนี้ยังรอการการทดสอบจาก Centre for
Water Research จาก University of Western Australia เพื่อดูผลทางเทคนิค
(คุณภาพน้ำ) และดูเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป
- พลังงานจากคลื่นจากพื้นที่ใต้ทะเลขนาดเท่ากับสนามคริกเก็ต สามารถนำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอต่อการใช้งานของ 25,000 ครัวเรือน
- ถ้านำเอาพลังงานคลื่นที่จะนำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้ามาผลิตน้ำจืด พลังงานคลื่นจากระบบ Ceto จำนวน 300 หน่วยจะผลิตน้ำจืดได้ 50,000 ล้านลิตร หรือเทียบเท่ากับ 10% ของความต้องการใช้น้ำจืดของคนในเขตซิดนีย์ต่อปี
- ถ้านำเอาพลังงานคลื่นที่จะนำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้ามาผลิตน้ำจืด พลังงานคลื่นจากระบบ Ceto จำนวน 300 หน่วยจะผลิตน้ำจืดได้ 50,000 ล้านลิตร หรือเทียบเท่ากับ 10% ของความต้องการใช้น้ำจืดของคนในเขตซิดนีย์ต่อปี
Environmental object คือ พลังงานจากคลื่นในมหาสมุทรมาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้า
Environment data object คือ เมื่อทุ่นถูกคลื่นซัดจะเกิดผลักแรงดันคล้ายเครื่องสูบน้ำและส่งน้ำทะเลไปตาม ท่อเพื่อหมุนกังหันปั่นไฟ นอกจากนั้นน้ำทะเลที่มาพร้อมกับแรงดันนั้นจะถูกนำมากลั่นให้กลายเป็นน้ำจืด
Environment data object คือ เมื่อทุ่นถูกคลื่นซัดจะเกิดผลักแรงดันคล้ายเครื่องสูบน้ำและส่งน้ำทะเลไปตาม ท่อเพื่อหมุนกังหันปั่นไฟ นอกจากนั้นน้ำทะเลที่มาพร้อมกับแรงดันนั้นจะถูกนำมากลั่นให้กลายเป็นน้ำจืด
ที่มา : Wave Energy …แปลงเป็นไฟฟ้าก็ได้ น้ำจืดก็เหลือเฟือ [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จากhttp://www.energysavingmedia.com/news/page.php?a=10&n=123&cno=2795. (วันที่สืบค้นข้อมูล : 10 สิงหาคม 2555).
น.ส.หิรัญญิกา ศรีวงษ์กลาง(จ๋อม)
ปรับแก้ Environmental Object, Environmental Object Data, Data Capture, Data Analysis, และ Meta Data นะคะ
ตอบลบ