ด้วยเหตุนี้
การนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำ การฟื้นฟูทรัพยากรดิน
และรักษาสภาพแวดล้อม จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาที่เป็นวัชพืชในพื้นที่
สำหรับหญ้าแฝกเป็นพืชที่เจริญเติบโตโดยการแตกกอ
เส้นผ่าศูนย์กลางของกอประมาณ 30-40 เซนติเมตร ความสูงประมาณ 0.5-1.5 เมตร
ใบหญ้าแฝกมีลักษณะแคบประมาณ 0.6-1.0 เซนติเมตร มีความยาวประมาณ 50-75
เซนติเมตร การเจริญเติบโตในแนวดิ่งมากกว่าแนวข้าง มีระบบรากยาวหยั่งลึก
1.5-3.0 เมตร แต่แผ่ขยายด้านข้างเพียง 50-60 เซนติเมตร
สามารถเก็บกักน้ำและความชื้นได้ดี
ลักษณะเด่นของหญ้าแฝก
หญ้าแฝกมีลักษณะเด่นอยู่หลายประการที่ช่วย
การฟื้นฟูทรัพยากรดิน และการรักษาสภาพแวดล้อม จากข้อมูลการวิจัยในด้านต่าง ๆ
สรุปผลได้ว่า หญ้าแฝกมีลักษณะเด่น ดังนี้
![]() |
---|
1. มีการแตกหน่อรวมเป็นกอ เบียดกันแน่น ไม่แผ่ขยายด้านข้าง
2. มีการแตกหน่อและใบใหม่ ไม่ต้องดูแลมาก
3. หญ้าแฝกมีข้อที่ลำต้นถี่ ขยายพันธุ์โดยใช้หน่อได้ตลอดปี
4. ส่วนใหญ่ไม่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ทำให้ควบคุมการแพร่ขยายได้
5. มีใบยาว ตัดและแตกใหม่ง่าย แข็งแรง และทนต่อการย่อยสลาย
6. ระบบรากยาว สานกันแน่น และช่วยอุ้มน้ำ
7. บริเวณรากเป็นที่อาศัยของจุลินทรีย์
8. ปรับตัวกับสภาพต่าง ๆ ได้ดี ทนทานต่อโรคพืชทั่วไป
9. ส่วนที่เจริญต่ำกว่าผิวดิน ช่วยให้อยู่รอดได้ดี
![]() |
---|
การฟื้นฟูทรัพยากรดิน
การปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่ทำการเกษตรส่วนใหญ่
จะมุ่งเน้นในเรื่องของการอนุรักษ์ดินและน้ำ ลดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน
การช่วยเก็บกักตะกอนดินในพื้นที่ลาดชัน แต่จากผลของการศึกษาวิจัยพบว่า
หญ้าแฝกยังมีลักษณะในด้านการฟื้นฟูทรัพยากรดินด้วย
ซึ่งช่วยให้ดินมีศักยภาพในการให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่
1. การเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ
เนื่องจากระบบรากของหญ้าแฝกค่อนข้างมาก และหนาแน่น มีมวลชีวภาพสูง
และเจริญแทรกลงไปในดิน ด้วยลักษณะดังกล่าว
จึงเป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน เมื่อรากบางส่วนตายไป
สำหรับส่วนของใบพบว่า หญ้าแฝกเจริญได้ค่อนข้างเร็ว มวลชีวภาพสูง
ดังนั้นการตัดใบคลุมดิน
จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน
และยังช่วยเร่งการแตกหน่อของหญ้าแฝกด้วย
2. การเพิ่มปริมาณความชื้นในดิน
ในระบบที่มีการปลูกหญ้าแฝกจะพบว่า ดินเก็บความชื้นได้ยาวนานกว่า
เนื่องจากส่วนของรากหญ้าแฝกที่ประสานกันเป็นร่างแห จะช่วยดูดยึดน้ำไว้ในดิน
ซึ่งเห็นได้จากไม้ผล หรือพืชไร่ที่เจริญใกล้แถวหญ้าแฝก
จะมีการเจริญเติบโตที่ดีกว่าพืชที่ไม่ได้ปลูกใกล้หญ้าแฝก ปัจจัยหนึ่งคือ
ระดับความชื้นในดินมีมาก และยาวนานกว่า
3. การเพิ่มอัตราการระบายน้ำและอากาศ ระบบรากของหญ้าแฝกที่แพร่กระจาย มีส่วนช่วยให้ดินมีการระบายน้ำ และอากาศได้ดีมากขึ้นกว่าการไม่มีรากหญ้าแฝก
4. การเพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ดิน
บริเวณรากหญ้าแฝกพบว่า มีเชื้อจุลินทรีย์อยู่มากมายหลายชนิด
ส่วนใหญ่มีผลดีต่อการเปลี่ยนแปลงธาตุอาหารพืชในดิน ช่วยดูดธาตุอาหารจากดิน
และส่งเสริมให้เกิดกิจกรรของเชื้อจุลินทรีย์ในบริเวณราก
ลักษณะดังกล่าวส่งผลดีต่อการเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืชในดิน
จากปัจจัยดังกล่าว
การปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่ดินเสื่อมโทรม หรือพื้นที่ดินมีปัญหา
จึงมีส่วนช่วยฟื้นฟู และปรับปรุงดินมห้มีสภาพดีขึ้น
เนื่องจากผลของอินทรียวัตถุที่เพิ่มขึ้น
และกิจกรรมของเชื้อจุลินทรีย์บริเวณรากหญ้าแฝก
รวมทั้งการมีความชื้นที่ยาวนานขึ้น สภาพดินจึงมีการพัฒนา
และความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
![]() |
---|
การรักษาสภาพแวดล้อม
หญ้าแฝกเป็นพืชที่มีระบบรากหนาแน่นจำนวน
มาก และเจริญในแนวลึกมากกว่าด้านข้าง
ประกอบกับหญ้าแฝกเจริญเติบโตได้ในสภาพที่มีโลหะหนัก ลักษณะดังกล่าว
จึงมีการนำหญ้าแฝกมาปลูกเพื่อใช้บำบัดน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท
และดูดซับโลหะหนักจากดิน
สำหรับวิธีการที่นำหญ้าแฝกไปปลูกเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาสภาพแวดล้อม
ได้แก่
1. การปลูกหญ้าแฝกรอบขอบบ่อบำบัดน้ำทิ้ง เพื่อให้หญ้าแฝกช่วยดูดโลหะหนักบางชนิด
2. การปลูกหญ้าแฝกในดินเพื่อดูดโลหะหนักจากดิน
3. การปลูกหญ้าแฝก แล้วให้น้ำทิ้งไหลผ่านในอัตราการไหลที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม
ในปัจจุบันยังมีนักวิจัยดำเนินการ
เพื่อศึกษาวิจัยการนำหญ้าแฝกมาใช้ประโยชน์ในการรักษาสภาพแวดล้อม
และบำบัดน้ำทิ้งในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
Environmental Object คือ หญ้าแฝก
Environmental Data Object คือ หญ้าแฝกเป็นพืชที่เจริญเติบโตโดยการแตกกอ
เส้นผ่าศูนย์กลางของกอประมาณ 30-40 เซนติเมตร ความสูงประมาณ 0.5-1.5 เมตร
ใบหญ้าแฝกมีลักษณะแคบประมาณ 0.6-1.0 เซนติเมตร มีความยาวประมาณ 50-75
เซนติเมตร การเจริญเติบโตในแนวดิ่งมากกว่าแนวข้าง มีระบบรากยาวหยั่งลึก
1.5-3.0 เมตร แต่แผ่ขยายด้านข้างเพียง 50-60 เซนติเมตร
สามารถเก็บกักน้ำและความชื้นได้ดี จึงนำมาช่วยในการอนุรักษ์ดินและน้ำ
ที่มา
การปลูกหญ้าแฝกเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรดินและสภาพแวดล้อม[ออนไลน์];http://www.ku.ac.th/e-magazine/aug49/agri/grass.htm (วันที่สืบค้นข้อมูล 31 กรกฎาคม 2555)
น.ส สุภัทรา พึ่งพเดช (แหม่ม)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น