วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เมืองกินป่า น้ำกินเมือง




เรียบเรียง : กรวิกา
หน้าฝนเดินทางมาถึงอีกครั้ง และยังไม่มีใครรู้ว่าฝนคราวนี้จะพาน้ำท่วมกลับมาอีกด้วยหรือไม่ ก่อนจะป้องกันปัญหาระยะสั้นอย่างก่ออิฐ ยกพื้น ย้ายของขึ้นที่สูง ฯลฯ เราอยากให้คุณดูข้อมูลที่จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืน
งานวิจัยจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร หัวข้อ “หลักฐานทั่วโลกที่พิสูจน์ความสัมพันธ์ของจำนวนป่าไม้กับโอกาสและความรุนแรงของอุทกภัยในประเทศกำลังพัฒนา” เก็บข้อมูลเป็นเวลา 10 ปี จาก 56 ประเทศ อาศัยข้อมูลการเกิดอุทกภัย ระยะเวลา และจำนวนป่าไม้ ทำให้ได้ข้อสรุปเป็นทางคณิตศาสตร์และอธิบายผลกระทบของการตัดไม้ทำลายป่าได้
ข้อสรุปที่สำคัญของการศึกษานี้บอกว่า จำนวนป่าไม้ที่ลดลง 10% ส่งผลให้ความถี่ของอุทกภัยเพิ่มขึ้นจาก 4% เป็น 28%
และยังเพิ่มระยะเวลาที่เกิดอุทกภัยจาก 4% เป็น 8% ด้วย
นอกจากนี้ ข้อมูลจากงานวิจัยดังกล่าวได้ถูกนำมาเสนอเป็นข้อมูลรูปภาพ (infographic) ของประเทศไทยโดยบริษัท Architectkidd


วัน เวลา กับป่าไม้
จำนวนป่าไม้ที่ลดลงอย่างมากในประเทศไทยตลอดระยะเวลา 20 ปี (พ.ศ. 2513-2533)


ป่าโอบอุ้มน้ำ
ผืนดินที่มีต้นไม้อยู่จะช่วยให้น้ำซึมลงใต้ดินได้ถึง 50% ระเหยไป 40% และมีน้ำไหลบนพื้นดินเพียง 10% ในขณะที่พื้นที่เมืองมีน้ำซึมลงใต้ดิน 15% ระเหย 30% และมีน้ำไหลบนพื้นดินถึง 55%  


ป่าและประชากร
กราฟแสดงจำนวนประชากรประเทศไทยและจำนวนป่าไม้ที่แปรผกผันอย่างเห็นได้ชัด น่าคิดต่อว่าวันที่จำนวนป่าไม้ลดเหลือศูนย์ เราจะมีชีวิตอยู่กันได้อย่างไร


เมืองกลืนกินป่า
ในอดีต เราสูญเสียป่าไม้จากการใช้ประโยชน์จากไม้และการทำเกษตร แต่ในวันนี้ ความเจริญเติบโตของเมืองและอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยหลัก กรุงเทพมหานครขยายพื้นที่ความเจริญขึ้น 16 เท่า จาก 5.8 ตารางกิโลเมตรในปี 1850 เป็น 1,335 ตารางกิโลเมตรในปี 2002 คิดเป็นอัตราการเติบโต 4.8% ต่อปี



ที่มา :
กรวิกา.เมืองกินป่า น้ำกินเมือง . [Online]. เข้าถึงได้จาก : http://www.greenworld.or.th/greenworld/local/1852.
แปลมาจาก.http://www.architectkidd.com/index.php/2012/03/deforestation-increases-f...
 (วันที่สืบค้นข้อมูล : 8 กรกฎาคม 2555).



น.ส.หิรัญญิกา  ศรีวงษ์กลาง(จ๋อม)

3 ความคิดเห็น:

  1. เป็นบทความที่ดีค่ะ ทำให้เราได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการที่จะช่วยกันหยุดทำลายป่าไม้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมหนัก อีกทั้งการเจริญของเมืองก็เช่นเดียวกันเป็นตัวการทำให้ป่าไม้ลดลง ยิ่งเจริญมากขึ้นเท่าไรเราก็อาจจะเดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบที่เลวร้ายนี้ได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น

    นางสาวแสงเทียน ฤทธิไกรสร (แนน)

    ตอบลบ
  2. จากบทความ สามารถบอกได้ว่ามนุษย์คือสาเหตุสำคัญที่ทำลายทรัพยากรป่าไม้ และทรัพยากรอื่นๆ มนุษย์รู้จักใช้ แต่ไม่รู้จักทดแทน ทำให้สภาพสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเสื่อมโทรมลงไปมาก จนเกิดปัญหาต่างๆตามมา ซึ่งเท่ากับว่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังทวงความเป็นธรรมคืนจากมนุษย์ และหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดก็คือตัวมนุษย์เองเช่นกัน


    น.ส.ประภาพรรณ มีทอง (เกด)

    ตอบลบ
  3. จากการที่ได้อ่านบทความนี้ ทำให้เราต้องตระหนักถึงการปลูกต้นไม้ และไม่ตัดไม้ทำลายป่าเพิ่ม มิเช่นนั้นเราเองที่จะต้องเดือนร้อนจากการที่ไม่มีต้นไม้ เพราะนอกจากจะเกิดน้ำท่วมแล้ว ยังเกิดภัยอื่นๆอีกมากมายตามมา

    น.ส.ศศิธร ระหงษ์ (ตุลา)

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น