วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไอทีสีเขียว

          การใช้ไอทีอย่างอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้น เป็นประเด็นที่กำลังกล่าวถึงกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน อาจจะเป็นเพราะวิกฤติสภาวะแวดล้อมและพลังงานที่ส่งผลชัดเจนต่อการดำเนินชีวิตไปทั่วโลก โดยความหมายของการใช้ไอทีอย่างอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือไอทีสีเขียวนั้น เราสามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเด็นใหญ่ ๆ คือ ข้อแรกการ ’สร้าง“ ไอทีอย่างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ข้อสองคือ การ ’ใช้“ ไอทีโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและประการสุดท้าย คือการ ’ประยุกต์“ ใช้ไอทีเพื่อสิ่งแวดล้อม และเน้นหลักการปฏิบัติห้าประการคือ 1) นำมาใช้ใหม่ 2) ใช้อย่างอเนกประสงค์ 3) ใช้น้อยแต่ให้ได้มาก 4) ใช้อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 5) ลดการใช้สิ่งไม่จำเป็น

          ประการแรกเรื่องของการ “สร้าง” ไอที หรือเทคโนโลยีสารสนเทศทำได้โดยการสร้างหรือการใช้ทักษะทางวิศวกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิต ลดต้นทุนเช่น “การนำมาใช้ใหม่” การออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ทางไอทีไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เนตเวิร์กให้อเนกประสงค์มากขึ้น คือใช้ได้หลายวัตถุประสงค์ เช่นซอฟต์แวร์ที่ทำงานได้หลายประเภทไม่เฉพาะเจาะจงจนเกินไป ใช้พลังงานน้อยเช่นใช้เวลาคำนวณน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์รวดเร็ว ลดการใช้พลังงาน ทรัพยากร เช่นไฟฟ้า น้ำ แบตเตอรี่ กระดาษในการสร้างไอที ลดของเสียและขยะไอทีเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม

          ประการที่สองการ “ใช้” ไอทีอย่างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่นง่าย ๆ ที่สุดคือการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ช่วงที่ไม่ใช้งานเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า การใช้งานเครือข่ายอย่างคุ้มค่า ไม่ปล่อยให้เปลืองค่าใช้จ่าย การใช้ซอฟต์แวร์ปรับความสว่างที่เหมาะสมของจอภาพ การจำกัดการใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือการปรับสภาพแวดล้อมการใช้งานเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์เช่นอุณหภูมิห้อง และเพิ่มสมรรถนะของเครื่องเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่คุ้มค่าพลังงานไฟฟ้าเช่นเปลี่ยนเครื่องรุ่นเก่าที่กินไฟด้วยเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า

          ประการสุดท้ายคือการ “ประยุกต์” ใช้ไอทีในการรณรงค์ ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม เช่นการใช้ไอทีช่วยคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพรินต์ หรือรอยเท้าคาร์บอน เพื่อช่วยตัดสินใจในการจัดการอุตสาหกรรมโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การใช้ไอทีเป็นตัวควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้า อย่างเช่นสมาร์ต
กริด หรือการเชื่อมต่อการใช้พลังงานเข้าเป็นเครือข่ายโดยมีระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด การใช้ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ฝังตัวช่วยเป็นตัวตรวจจับการใช้งานในการประหยัดไฟในโรงงาน พื้นที่สาธารณะ ประหยัดการใช้น้ำ หรือ ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับอากาศภายในอาคาร เป็นต้น

          ในช่วงวันที่ 1 ถึง 7 มิถุนายน ของทุกปีจะเป็นสัปดาห์รณรงค์ไอทีสีเขียว ที่จัดติดต่อ โดยมีความร่วมมือกันในระดับนานาชาติมากกว่า 37 ประเทศ โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการบริจาค นิทรรศการออนไลน์ ผ่านทางสังคมเครือข่าย รวบรวมคนดังมาร่วมรณรงค์ มีการเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ เอกสาร งานวิจัย บทความ หนังสือ เกี่ยวกับการใช้ไอทีสีเขียว ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมมีส่วนในการรณรงค์ได้ที่ http://www.greenitweek.org/

          ท้ายสุดขออัญเชิญบางส่วนจากคำบรรยายปาฐกถาพิเศษของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานไอทีเฉลิมพระเกียรติ : เทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อประชาชน วันที่ 2 มิถุนายน 2538 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ “ขอฝากข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีไว้เล็กน้อย เทคโนโลยีต่าง ๆ ทุกประเภท มิใช่แค่เทคโนโลยีสารสนเทศเท่านั้น ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ในสังคมโบราณมีประชากรไม่มาก มนุษย์เพียงแต่ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ทางภูมิศาสตร์ และทางด้านสังคมที่กำหนดขึ้น ก็สามารถอยู่ได้อย่างสบาย แต่ในสังคมปัจจุบันมีคนมาก ทรัพยากรน้อย มนุษย์จะปรับตัวเพียงอย่างเดียวไม่พอแล้ว ต้องอาศัยเทคโนโลยีปรับสิ่งแวดล้อมให้เข้ากับตนได้ส่วนหนึ่งด้วย เทคโนโลยีจึงทำให้สามารถใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นประโยชน์ต่องานพัฒนาต่าง ๆ นอกจากนั้นยังทำให้ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้น เช่น อากาศร้อน หรือหนาวมากทนไม่ได้ ก็มาอยู่ในห้องปรับอากาศให้มีอุณหภูมิตามความต้องการ ไม่ใช่ว่าปรับตนเองให้ทนร้อนหนาวได้ เมื่อสามารถปรับปรุงสิ่งที่มีรอบตัวให้เกิดประโยชน์มากขึ้น มีคนอยู่ในที่ต่างๆ ได้มากขึ้น มีอาหารเลี้ยงคนมากขึ้น มีสุขภาพอนามัยดีขึ้น ส่งผลให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น และมีความก้าวหน้าทางวัตถุในทุก ๆ ด้านด้วย แต่เราก็ควรมีหลักในการใช้เทคโนโลยีอย่างรอบคอบในทางสร้างสรรค์ ไม่ใช่ว่าเป็นทาสของสิ่งที่เราจัดทำขึ้น เราต้องไม่ทำลายธรรมชาติ ต้องให้ธรรมชาติอยู่ยั่งยืนนาน ไม่ใช่แค่ชั่วลูกชั่วหลานหรือแค่ตัวเรา คือทำแล้ว โกยเอา โกยเอา โกยเอา รวยแล้วเลิก อย่างนี้ก็จะอยู่ได้ไม่นาน มนุษย์เรานั้นควรมีความเป็นอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นอิสระในความคิด รู้จักพินิจเรื่องต่าง ๆ กันอย่างกลมกลืน ทั้งทางด้านวัตถุที่อิงอยู่ กับเรื่องเทคโนโลยีและทางด้านจิตใจ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน...”

แหล่งที่มา:

ไอทีสีเขียว.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก :http://www.deqp.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=19230%3A2011-05-27-03-26-26&catid=12%3A2010-02-17-11-32-15&Itemid=50&lang=th. (วันที่สืบค้นข้อมูล : 13 มิถุนายน 2555).

 นางสาวแสงเทียน  ฤทธิไกรสร (แนน)

5 ความคิดเห็น:

  1. เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เหมาะให้นักธุรกิจทางด้านคอมพิวเตอร์ได้อ่านและนำไปใช้ ปรับปุรง ผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

    น.ส.ศศิธร ระหงษ์ (ตุลา)

    ตอบลบ
  2. เป็นบทความที่ดี ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้กับทุกองค์กร ทุกภาคส่วน

    น.ส.ประภาพรรณ มีทอง (เกด)

    ตอบลบ
  3. เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนในสมัยนี้ เพราะคนในปัจจุบันจะมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเสมอ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

    น.ส. สุภัทรา พึ่งพเดช (แหม่ม)

    ตอบลบ
  4. น่าจะได้อ่านก่อนสอบ ISO ^^ บทความดีๆแบบนี้เป็นคำตอบงามๆเลย


    นางสาว หิรัญญิกา ศรีวงษ์กลาง (จ๋อม)

    ตอบลบ
  5. environmental object คือ การใช้ไอทีอย่างอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

    นางสาวแสงเทียน ฤทธิไกรสร (แนน)

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น